6 อาชีพเสี่ยงภาวะเส้นเลือดขอด

ศูนย์ : ศูนย์ศัลยกรรม

บทความโดย : นพ. วัชระ อัครชลานนท์

เส้นเลือดขอด

ปัญหาเส้นเลือดขอด เป็นหนึ่งในปัญหาหนักใจของสาวๆ หลายคน เพราะภาวะเส้นเลือดขอดมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า และพบบ่อยในผู้ที่ต้องใช้ขารับน้ำหนักตัวมาก เช่น คนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ คนที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ หรือคนที่ต้องยืนนาน ๆ ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่าอาชีพอะไรบ้างที่เสี่ยงต่อการเป็นภาวะเส้นเลือดขอดบ้าง


อาชีพเสี่ยงภาวะเส้นเลือดขอด

  • พยาบาล อาชีพนี้ต้องมีความอดทนและคล่องตัวสูง การเดินมาก ๆ ทำให้เท้าต้องรับน้ำหนักตัวตลอดวัน ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าพยาบาลหลายคนใส่ผ้ายืดหรือ Support รัดน่อง เพื่อป้องกันไว้ก่อน
  • ครู ต้องยืนสอนหน้าชั้นติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ง่าย
  • แอร์โฮสเตส อาชีพในฝันของสาวๆ แต่ต้องแลกกับการยืนและเดินนาน ๆ ตลอดชั่วโมงบิน
  • พนักงานออฟฟิศ ฟังดูแล้วเป็นอาชีพที่เสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอดน้อยที่สุด แต่ทราบหรือไม่ว่าการที่นั่งโต๊ะนาน ๆ ด้วยการนั่งไขว่ห้างเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
  • พนักงานขายในห้างสรรพสินค้า หรือพนักงานต้อนรับ อาชีพนี้เฉลี่ยแล้วอาจจะต้องยืนติดต่อกัน ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพราะต้องคอยให้คำแนะนำลูกค้าอยู่ตลอด และส่วนใหญ่จะใส่รองเท้าส้นสูง
  • พนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำทาง ต้องเดินและยืนเก็บค่าโดยสารตลอดสายครั้งละหลายชั่วโมง แถมยังต้องทรงตัวให้ดีเมื่อยามรถจอดหรือเบรกอีกด้วย

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

วิธีป้องกันเส้นเลือดขอดในที่ทำงาน

  1. เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
    • สำหรับคนที่ต้องยืนทำงานนาน
      • หยุดพักยืนหรือเดินเปลี่ยนท่าทุกๆ 30 นาที
      • ยกขาขึ้นลงหรือเขย่งปลายเท้าเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดดำกลับสู่หัวใจ
    • สำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานนาน
      • ลุกขึ้นยืนและเดินบ่อยๆ อย่างน้อยทุกๆ 30-60 นาที
      • ใช้เก้าอี้หนุนบริเวณน่อง
      • ขยับเท้าขึ้นลง หมุนข้อเท้า หรือยกขาสลับกันเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  2. ใส่ถุงน่องสำหรับเส้นเลือดขอด (Compression Stockings)
    • ถุงน่องชนิดพิเศษนี้ช่วยเพิ่มแรงบีบที่ขาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
    • ลดแรงดันที่เส้นเลือด ช่วยป้องกันอาการบวมและเส้นเลือดขอด
  3. ออกกำลังกายระหว่างวันทำงาน

    ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เช่น

    • นั่งแล้วยกขาขึ้นตรงๆ ค้างไว้ 10 วินาที
    • หมุนข้อเท้าเป็นวงกลม ซ้าย-ขวา 10-15 ครั้ง
    • เดินไปมา ในห้องทำงาน หรือใช้บันไดแทนลิฟต์เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด
  4. นั่งหรือยืนในท่าที่ถูกต้อง
    • หลีกเลี่ยงการไขว่ห้าง เพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
    • ถ้านั่งทำงาน ให้เท้าวางราบกับพื้นหรือหาที่รองเท้าให้สูงขึ้น
    • ยืนตัวตรง กระจายน้ำหนักเท้าให้สมดุล หลีกเลี่ยงการยืนทิ้งน้ำหนักข้างเดียว
  5. ยกขาให้สูงเมื่อมีโอกาส
    • ในช่วงพักหรือหลังเลิกงาน ควรยกขาพาดขึ้นบนโต๊ะหรือหมอนสูงประมาณระดับหัวใจ
    • ท่านี้ช่วยให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจ ลดแรงดันที่เส้นเลือดขา
  6. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงนานเกินไป
    • รองเท้าส้นสูงทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีและเพิ่มแรงกดที่ขา
    • หากต้องใส่ส้นสูง ควรพักเท้าด้วยการถอดออกบ้าง และเลือกส้นรองเท้าที่ไม่สูงเกิน 2 นิ้ว
  7. ควบคุมน้ำหนักตัว
    • น้ำหนักตัวที่มากเกินไปทำให้ขาต้องรับน้ำหนักมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงเส้นเลือดขอด
    • ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี
  8. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    • การดื่มน้ำช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ลดความข้นของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
  9. หลีกเลี่ยงการยกของหนักเกินไป
    • การยกของหนักทำให้แรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เลือดคั่งที่เส้นเลือดบริเวณขา
    • ควรใช้เทคนิคการยกของที่ถูกต้อง เช่น งอเข่าและยกจากขาแทนการก้มหลังยก
  10. รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสุขภาพหลอดเลือด
    • อาหารที่มีวิตามินซีและวิตามินอีสูง เช่น ส้ม เบอร์รี่ ผักใบเขียว ช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง
    • หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เพราะอาจทำให้ร่างกายบวมน้ำ

> กลับสารบัญ



ทั้งนี้ ปัญหาเส้นเลือดขอดจะไม่อันตรายหรือรุนแรงมากนักหากเข้ารับการรักษาโดยเร็ว ดังนั้นเมื่อเป็นเส้นเลือดขอด หรือ หากมีอาการบวม ปวดขา หรือเห็นเส้นเลือดขอดเกิดขึ้นชัดเจนควรพบแพทย์เพื่อทำการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เพราะการรักษาแต่แรกเริ่มช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคตได้



นพ.วัชระ อัครชลานนท์ นพ.วัชระ อัครชลานนท์

นพ.วัชระ อัครชลานนท์
ศัลยศาสตร์/ศัลยศาสตร์หลอดเลือด
ศูนย์ศัลยกรรม

นัดหมายแพทย์

ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย